“อนุทิน” ยืนยันความจงรักภักดีต่อสถาบัน พร้อมชี้แจงประเด็นร้อนคดีฮั้ว สว.

ข่าวด่วนวันนี้ (ข่าวทั่วไทย)

ในวันที่ 2 พฤษภาคม 2568 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้ออกมาให้สัมภาษณ์กรณีที่มีเอกสารคำสั่งจากอธิบดีกรมการปกครองถึงปลัดจังหวัดทั่วประเทศ ซึ่งมีลักษณะเป็นการสั่งการไม่ให้ความร่วมมือกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ในการสอบสวนคดีฮั้วเลือกสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ทั้งนี้ นายอนุทินได้ปฏิเสธว่าไม่ทราบเรื่องดังกล่าว และแนะนำให้ไปสอบถามกับอธิบดีกรมการปกครองโดยตรง

ยืนยันนโยบายมหาดไทยโปร่งใส พร้อมให้ความร่วมมือตามกฎหมาย

นายอนุทิน ได้ให้ความมั่นใจว่า กระทรวงมหาดไทยไม่มีนโยบายที่จะไม่ให้ความร่วมมือกับหน่วยงานใดๆ ในการสอบสวนคดีความตามกฎหมาย “มันเป็นไปไม่ได้ การดำเนินการใดก็ตามที่ถูกต้องตามกฎหมาย ประชาชนและหน่วยงานราชการก็ต้องให้ความร่วมมือ” นายอนุทินกล่าว พร้อมเน้นย้ำว่าการดำเนินการใดๆ ต้องเป็นไปด้วยความโปร่งใส รักษาผลประโยชน์ของบ้านเมือง ไม่มีเจตนาแฝงในการกลั่นแกล้งหรือจงใจสร้างความเสียหายให้กับบุคคลใดบุคคลหนึ่ง

อีกประเด็นสำคัญที่ถูกหยิบยกขึ้นมาคือกรณีที่อดีตผู้สมัคร สว. ซึ่งเคยดำรงตำแหน่ง ส.ส. ได้ร้องเรียนว่าถูกนายอำเภอในพื้นที่บังคับให้นำข้อมูลการแจ้งความเรื่องคดีฮั้วเลือก สว. ไปใช้ในทางที่ไม่ถูกต้อง และยังกล่าวอ้างว่ามีนักการเมืองอยู่เบื้องหลังการสั่งการดังกล่าว

ปฏิเสธข้อกล่าวหา ยืนยันไม่มีนโยบายแทรกแซง

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าวอย่างหนักแน่น โดยระบุว่า “พูดแบบนี้ใครก็พูดได้ แต่รับรองว่ากระทรวงมหาดไทย ไม่มีนโยบายที่จะให้นายอำเภอหรือข้าราชการคนไหน ไปทำอะไรที่ไม่เกี่ยวข้องกับภารกิจหน้าที่ทางราชการ ไม่มีเด็ดขาด” นอกจากนี้ นายอนุทินยังเน้นย้ำว่าตนในฐานะรัฐมนตรีมหาดไทย ยึดมั่นในระบบและการปฏิบัติหน้าที่อย่างเคร่งครัด ไม่เคยก้าวก่ายหรือให้นโยบายที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย

“ตนไม่เคยก้าวก่ายได้ ไม่เคยให้นโยบายหรือแนวทางใดที่มิชอบ ไม่ต้องกังวล ไม่มีเวลาไปทำอย่างนั้นอยู่แล้ว” นายอนุทินกล่าวด้วยความมั่นใจ แสดงจุดยืนที่ชัดเจนว่ากระทรวงมหาดไทยภายใต้การนำของตนไม่มีนโยบายแทรกแซงการทำงานของเจ้าหน้าที่รัฐในลักษณะที่ผิดกฎหมายหรือไม่เหมาะสม

ประเด็นร้อนเอกสาร กอ.รมน. และข้อกล่าวหาแอบอ้างสถาบัน

ในส่วนของประเด็นที่มีการเผยแพร่เอกสารของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ที่ระบุชื่อของนายอนุทินอยู่ในกลุ่มที่มีการแอบอ้างชื่อสถาบันเพื่อแสวงหาผลประโยชน์นั้น รองนายกรัฐมนตรีได้เปิดเผยว่าเพิ่งทราบข่าวในเช้าวันเดียวกัน และยังไม่ได้เห็นเอกสารดังกล่าว

“ตนเองเพิ่งฟังข่าวเมื่อเช้า แต่ยังไม่เห็นเอกสาร แต่คงต้องมีการขอไป เพราะตนเองเป็นรองประธาน กอ.รมน. ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ยังไม่เคยได้ยินเรื่องนี้” นายอนุทินกล่าว พร้อมเสริมว่าตนเข้าร่วมการประชุมของ กอ.รมน. ทุกครั้ง ยกเว้นการประชุมครั้งล่าสุดที่ไม่ได้เข้าร่วม และจะต้องมีการชี้แจงในเรื่องนี้ต่อไป

ยืนยันความจงรักภักดีต่อสถาบัน ปฏิเสธข้อกล่าวหาแอบอ้าง

นายอนุทินได้ยืนยันอย่างหนักแน่นว่าไม่เคยแอบอ้างสถาบันเพื่อผลประโยชน์ใดๆ “สำหรับตนเองอย่าบอกว่าเคยแอบอ้าง หรือมีการแอบอ้าง แค่คิด ก็ไม่เคยคิดอยู่แล้ว และไม่มีความจำเป็นใดๆ ในหน้าที่การงานของตนเองที่ต้องไปแอบอ้าง” นายอนุทินกล่าวอย่างหนักแน่น

รองนายกรัฐมนตรียังเน้นย้ำถึงความจงรักภักดีที่มีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ โดยกล่าวว่า “ตนเองมีความจงรักภักดีในกระแสเลือดอยู่แล้ว ถ้าจะบอกว่าตนเองมีความรู้สึกอะไรกับสถาบันสูงสุดของประเทศ ต้องบอกว่าตนเองมีความจงรักภักดีที่จะไม่มีวันเปลี่ยนแปลง และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของทุกพระองค์ตลอด”

นายอนุทินยังได้ย้ำด้วยว่า ความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นสิ่งที่ไม่ควรถูกนำมาเชื่อมโยงกับการเมืองหรือการปฏิบัติหน้าที่ของตน “เพราะฉะนั้น อย่าเอาไปเกี่ยวข้องกับการเมือง หรือวิธีการทำงานหน้าที่ของตนเอง ไม่มีความจำเป็นเลย” นายอนุทินกล่าวทิ้งท้าย

สรุป

กรณีที่มีการกล่าวหาว่ากระทรวงมหาดไทยไม่ให้ความร่วมมือกับดีเอสไอในการสอบสวนคดีฮั้วเลือก สว. รวมถึงข้อกล่าวหาเรื่องการแอบอ้างสถาบันเพื่อแสวงหาผลประโยชน์นั้น นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาทั้งหมด พร้อมยืนยันว่ากระทรวงมหาดไทยมีนโยบายให้ความร่วมมือกับทุกหน่วยงานในการดำเนินการตามกฎหมายอย่างโปร่งใส และตนเองมีความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างไม่มีวันเปลี่ยนแปลง โดยไม่มีความจำเป็นต้องแอบอ้างสถาบันเพื่อผลประโยชน์ใดๆ ทั้งสิ้น

เหตุการณ์นี้สะท้อนให้เห็นถึงความตึงเครียดทางการเมืองที่ยังคงมีอยู่ในประเทศไทย โดยเฉพาะในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภาและความสัมพันธ์ระหว่างหน่วยงานรัฐ ซึ่งจะต้องติดตามการพัฒนาของสถานการณ์ต่อไป